ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติม...ที่นี่

Custom Search

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เรื่องสั้นเร้บลับ ตอน บ้านเช่านี้....ผีดุ


สำหรับน้องๆที่เป็นนักเรียน นักศึกษาต่างจังหวัดที่จะเช่าบ้านหรือหอพักที่ใดก็ตามขอเตือนว่า ให้สืบประวัติของบ้านหรือห้องพักนั่นให้ดีเสียก่อนว่ามีประวัติอะไรหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรม ฆาตกรรมหรือเรื่องลี้ลับต่างๆ เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ต่อให้คุณได้ประสบแม้เพียงครั้งเดียวแต่มันจะกลายเป็นความทรงจำที่เลวร้ายของคุณไปตลอดชีวิตเหมือนชีวิตของนักศึกษากลุ่มนี้

มีนักศึกษาสาว ๔ คนได้ตัดสินใจไปเช่าบ้านหลังหนึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดสงขลานัก บ้านเช่านี้มีลักษณะเป็นห้องแถวสามห้องเพิ่งสร้างใหม่ทาสีเขียวอ่อนๆ โดยหลังที่ทั้งสี่คนเช่านั้นเป็นบ้านหลังซ้ายสุดซึ่งมีบึงน้ำคั่นกลางระหว่างตัวบ้านกับทางรถไฟเก่า คืนวันหนึ่งขณะที่ทั้ง ๔คนกำลังดูทีวีกันอย่างเพลิดเพลิน ก็บังเอิญมีลมพัดประตูมาวูบหนึ่งทำให้ประตูเปิดแง้ม “หนิง”ซึ่งกำลังนอนจดจ่ออยู่กับละครโทรทัศน์ที่ทุกบ้านติดกันงอมแงมคิดว่ามีใครมาหาจึงพูดขึ้นมาว่า “เชิญเข้ามาข้างในเลยค่ะ” แล้วคำพูดนี้ก็นำฝันร้ายมาให้นักศึกษาสาวทั้ง ๔ คน ขอเล่าเหตุการณ์ชวนขนลุกเลยแล้วกันนะครับ

วันหนึ่งขณะที่ “ออ”กำลังนอนเล่นหลับอยู่ในห้องของตนเองแล้วเพื่อนอีกสี่คนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้าน จู่ๆออก็วิ่งหน้าตาตื่นออกมา หน้าของเธอซีดเผือด ผมของเธอดูยุ่งเหยิง ปากก็ร้องว่า “ไม่ไหวแล้วๆ” เพื่อนๆตกใจมากถามว่าเกิดอะไรขึ้น “หนูนา”โอบออไว้พลางเอามือลูบหลังอยู่พักใหญ่ เมื่อออเริ่มได้สติแล้วเธอก็เล่าให้ฟังว่า ขณะที่เธอเคลิ้มหลับไปนั้น เธอมีความรู้สึกว่ามีใครสักคนมานอนข้างๆเธอ ตอนแรกเธอคิดว่าหนูนาคงจะเข้ามานอนกลางวันข้างๆเธอด้วย จึงไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อผ่านไปสักครู่หนึ่งเธอมีความรู้สึกเหมือนเส้นผมยาวๆของใครบางคนมาปัดๆกวาดๆบริเวณใบหน้าของเธอ ออรำคาญมากจึงลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว หากคุณเคยดูหนังเรื่อง “จูออน” ก็ขอบอกเลยว่าออก็คงจะเป็นคนที่ได้รับรู้จากของจริงคราวนี้นี่เอง ผู้หญิงคนนั้นเหมือนโผล่เฉพาะส่วนหัวออกมาจากกำแพง ใบหน้าสีดำคล้ำ นัยน์ตาแดงก่ำที่ห่างจากหน้าของออแค่หายใจรดกันฉายแววของความไม่พอใจอย่างรุนแรงโดยมีเส้นผมยาวหนาของเธอคลุมศีรษะของออไว้ โสตประสาทของเธอได้ยินเสียงหัวเราะแหลมเล็กก้องอยู่ข้างหูตลอดเวลา ออรวบรวมกำลังสุดชีวิตวิ่งออกมาหน้าบ้าน ตั้งแต่วันนั้นทั้งสี่คนที่ปกติออจะนอนกับหนูนา หนิงจะนอนกับจ๊ะจ๋า ทั้งสี่ก็ตัดสินใจมานอนรวมกันห้องเดียว โดยแยกอีกห้องไว้เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเท่านั้น

เหตุการณ์ต่อมาเป็นเรื่องของจ๊ะจ๋ากับหนิงนั่นเอง เย็นวันหนึ่งขณะที่ทั้งสี่กำลังช่วยกันทำอาหารเย็นกินกัน ออกับหนูนานั่งเตรียมอาหารอยู่ จ๊ะจ๋ากับหนิงที่เพิ่งกลับจากออกไปซื้อน้ำตาลกับผักสดมาเพิ่มก็เดินผ่านห้องเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเข้ามา ทั้งสองเหลือบไปเห็นผู้หญิงผมยาวกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ด้วยความปากไวหนิงจึงแซวไปว่า “สวยแล้วจ้า หนูนา มาทำกับข้าวแค่นี้ไม่ต้องแต่งหน้าหรอกจ้ะ” แต่เสียงตอบกลับนั้นไม่ได้มาจากในห้องนั้นแต่มาจากหลังบ้านในส่วนที่เป็นห้องครัวแทนว่า “นานั่งอยู่ตรงนี้ แกพูดกับใครน่ะ” จ๊ะจ๋ากับหนิงหันไปทางต้นเสียงพร้อมกันแล้วหันกลับเข้าไปมองในห้องเก็บเสื้อผ้าอีกครั้งโดยอัตโนมัติ แต่ร่างของผู้หญิงผมยาวที่นั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งนั้นได้อันตรธานไปแล้ว ทั้งสองรีบวิ่งไปที่หลังครัวแล้วถามหนูนาอย่างรวดเร็ว แต่คำตอบคือ หนูนานั่งเตรียมของทำกับข้าวกับออมาตลอด ไม่ได้เข้าไปในห้องนั้นเลย

ยังไม่จบครับ ทั้งสี่สาวค่อนข้างจะเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงและห้าวนิดๆ หลายคนอาจจะบอกว่าเจอแค่นี้ยังไม่ย้ายออกอีกหรือ แต่การที่จะหาบ้านเช่าราคาถูกและสะดวกแบบนี้มันไม่ใช่ง่ายๆนะครับ เรื่องสุดท้ายที่ทั้งหมดพบในบ้านนี้คือ คืนหนึ่งออพาเพื่อนชายที่คบหากันมาได้ปีครึ่งชื่อ “ติ” มานอนค้างที่บ้านนี้ แต่จู่ๆกลางดึกติก็รีบบึ่งมอเตอร์ไซค์กลับไปนอนที่หอของตัวเอง เป็นเช่นนี้มาเรื่อยๆจนออตัดสินใจถามว่า ทำไมทุกครั้งไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ติต้องกลับไปนอนที่หอ ไม่ค้างคืนที่บ้านเช่านี้ ติก็ยอมสารภาพว่า คืนแรกที่เขามานอนที่นี่ อยู่ดีๆก็เหมือนมีผู้ชายร่างดำๆใหญ่ๆนุ่งโจงกระเบนสีแดงมาเดินรอบๆตัวเขา ข้ามตัวเขาไปๆมาๆ แล้วติมีอาการเหมือนแน่นหน้าอก เขาพยายามข่มตาหลับแต่ก็อดทนไม่ไหว จนต้องกลับไปนอนที่หอพักทุกครั้ง

แม้ว่าทั้งหมดจะไปทำสังฆทาน ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นหลายครั้งแล้ว แต่เพื่อนๆที่ไปค้างคืนที่บ้านเช่านั้นส่วนใหญ่ก็มักจะมีเหตุการณ์ชวนสยองมาเล่าเสียเป็นส่วนใหญ่ ทุกครั้งที่ต้องเดินผ่านทางเดินจากหน้าห้องรับแขกเข้าไปยังห้องครัวหลังบ้าน อากาศที่เย็นชื้นและมีสายลมอ่อนๆพัดตลอดแม้ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกือบทุกคนจะต้องเหลือบเข้าไปดูในห้องเก็บเสื้อผ้าเหมือนจะมีสายตาของใครจ้องมองกลับออกมาด้วยสายตาเยือกเย็นจนทำเอาขนลุกทุกครั้ง

ตอนนี้ทั้งหนิง หนูนา จ๊ะจ๋า และออเรียนจบจากมหาวิทยาลัยนั้นมาหลายปีแล้ว แต่ความทรงจำครั้งนั้นก็ยังคงอยู่และมักจะนำมาเล่ากันเสมอในยามที่ได้พบปะสังสรรค์กัน ล่าสุดที่พวกเธอได้ข่าวเกี่ยวกับบ้านเช่านั้นคือ คนที่ไปเช่าต่อจากเธอนั้นผูกคอตายกับขื่อในห้องที่ทั้งสี่เคยใช้เป็นห้องเก็บเสื้อผ้านั้นเอง

ปัจจุบันบ้านเช่านี้ก็ยังมีหลายต่อหลายคนที่ได้เข้าไปเช่าอาศัยอยู่ ช่วงระยะเวลาสั้นบ้าง ยาวบ้าง หวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่าคุณคงจะไม่ได้เช่าบ้านนั้นอยู่นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น