วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๑ เป็นโอกาสดีได้ชวนเพื่อนๆสมัยมัธยมสองคนไปเที่ยวตะลุยเมืองพังงากัน โดยที่น่าอายแท้ๆว่าเป็นคนพังงาแต่ว่ามีความรู้เกี่ยวกับจังหวัดตัวเองน้อยมาก เลยวางแผนกันว่าคราวนี้เที่ยวแบบม้วนเดียวจบและย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองพังงากัน ไว้คราวหน้าค่อยมาดื่มด่ำกับเรื่องราวของพังงาอย่างเต็มที่อีกครั้ง ที่หนึ่งซึ่งเป็นหัวใจของเมืองพังงาเลยก็ว่าได้คือ “ศาลหลักเมืองพังงา”
ในสมัยก่อนศาลหลักเมืองพังงาเป็นแต่เพียงอาคารเล็กๆซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังบ้านเรือนของประชาชน แต่เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ จึงได้มีการเริ่มลงมือสร้างศาลหลักเมืองให้เป็นสง่าราศีแก่เมืองยิ่งขึ้นโดยการนำของนายวรสิทธิ์ โรจนพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาและคณะในสมัยนั้น การก่อสร้างแล้วเสร็จและทำการสมโภชเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๔๕ ซึ่งการก่อสร้างอาคารศาลหลักเมืองนั้นใช้รูปแบบเดียวกับศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี จำได้ว่ามีการถ่ายทอดสดพิธีเปิดทางช่อง ๑๑ และมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
ส่วนตำนานของศาลหลักเมืองนั้นก็น่าสนใจอีก คือ ตามประวัติซึ่งได้จารึกไว้ในแผ่นหินอ่อนภายในศาลฯนั้นได้กล่าวว่า
เมื่อครั้งที่จะสร้างศาลหลักเมืองพังงานั้นได้มีการแห่ขบวนตีฆ้องร้องป่าวเพื่อหาหญิงตั้งครรภ์หรือคนสี่หูสี่ตามาเป็นเครื่องสังเวยศาลหลักเมือง ถ้าคนโบราณจะทราบดีว่าห้ามขานรับหากยังไม่ทราบว่าใครเรียก ปรากฏว่าขบวนฆ้องกลองผ่านไปถึงบ้านของนางสายทอง ชาวบ้านอำเภอท้ายเหมืองซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ นางไม่ทราบเรื่องจึงขานรับโดยเข้าใจว่าสามีมาเรียก จึงถูกจับเข้าพิธีสังเวยดวงวิญญาณ โดยให้นั่งในหลุมขณะประกอบพิธี ใช้ไม้มงคลตอกประกอบพิธีทางไสยศาสตร์เป็นศาลหลักเมือง เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าเลือดของนางสายทองกระเซ็นมาติดที่ไม้เสาหลักเมือง ต่อมามีปลวกเข้ามาทำรังห่อหุ้มแต่ก็ไม่ได้ทำลายเนื้อไม้แต่อย่างใด ยังคงสภาพดีมาถึงปัจจุบัน
หากมีโอกาสไปสักการะก็อย่าลืมแวะไปดูหลุมฝังศพของนางสายทองหรือเจ้าแม่สายทองซึ่งอยู่ภายในศาลและมีตู้เก็บวัตถุมงคลให้ชมเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น