ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติม...ที่นี่

Custom Search

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552

กิเลสไม่เคยเหนื่อย โดยท่าน ว.วชิรเมธี


รู้ไหมว่า...เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้คนละกี่ปี

ชีวิตนั้นสั้นยิ่งกว่าหยดน้ำค้างเสียอีกจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าถ้าเราใช้เวลาอันแสนสั้นนี้ไปมัวหลับๆ ตื่นๆอยู่ในความรัก โลภ โกรธ หลงหมั่นไส้คนนั้น ปลาบปลื้มคนนี้ริษยาเจ้านาย ใส่ไคล้ลูกน้องปกป้องภาพลักษณ์ (อัตตา) กด (หัว)คนรุ่นใหม่หลงใหลเปลือกของชีวิต โดยลืมไปเลยว่าอะไร คือ สิ่งที่ตนควรทำอย่างแท้จริงคิดดูเถิดว่า เราจะขาดทุนขนาดไหน
ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า'"น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วงใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝันฆ่าชีวา คือ พร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด"'คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนักเพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลสกิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบกิเลสไม่เคยเหนื่อยแต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า
ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะชอบ หรือไม่ชอบใครหรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบ หรือมาชังแต่เราเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำเอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้นหันกลับมามองตัวเองดีกว่าชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสารมีงานอะไรบ้างที่เราควรทำนอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออกไปอีกว่าเราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยังคนทุกคนนั้นต่างก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเองถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขาจิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้
เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจด้านไม่ดีของคนอื่นก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่าบางที่ คนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้นเขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกันกับเราเลยเราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสียวันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้ไม่เคยทำให้ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลยลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่าคิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อมหรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอกเราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปีประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้วมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไมอะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้างความโกรธ ความเกลียดนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น