สถาน 1 ต่อยกระบานศีรษะให้เลิกออกเสีย แลเอาคีมคีบเหล็กแดงใหญ่ใส่ลงไปให้มันสะหมองศีรษะพลุ่งฟู่ขึ่นดังม่อเคี่ยวน้ำส้มพะอูม
สถาน 2 ตัดแต่หนังจำระเบื่อหน้าถึงไพรปากเบื้องบนทั้งสองข้างแลเปนกำหนด ถึงหมวกหูทั้งสองข้างเปนกำหนด ถึงเกลียวคอชายผมเบื้องหลังเปนกำหนด แลให้มุ่นกระหมวดผมเข้าหากันเสียสิ้น แลให้เอาไม้สอดข้างละคน โยกคลอนสั่งเพิกหนังศีรษะทั้งหนังทั้งผมออกให้เสียสิ้น แลเอากรวดทรายหยาบขัดกระบานชำระให้แลขาวเหมือนพรรศรีสังข์
สถาน 3 เอาขอเกี่ยวปากให้แลเหนว่าอ้าไว้ แลให้ตามประทีปไว้ในปาก ไนยหนึ่ง เอาปากสิวอันคมนั้นแสะแหวกผ่าปากจนหมวกหูทั้งสองข้าง แลเอาขอเกี่ยวให้อ้าไว้ให้โลหิตไหลออกเต็มปาก
สถาน 4 เอาผ้าชุบน้ำมันพันร่างให้ทั่วแลเอาเพลิงจุด
สถาน 5 เอาผ้าชุบน้ำมันพันนิ้วทั้งสิบแลเอาเพลิงจุด
สถาน 6 เชือดเนื้อให้เป็นแรงริ้วอย่าให้แลเหนว่าขาดออกจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงเอนร้อยหวายแลเอาเชือกผูกจำ ให้เดินย่ำริ้วเนื้อริ้วหนังแห่งตน ให้ฉุดคร่าตีจำให้เดินจากว่าจะสิ้นใจ
สถาน 7 เชือดเนื้อให้เป็นแรงริ้วอย่าให้แลเหนว่าขาดออกจากกัน ตั้งแต่ใต้คอลงมาถึงสะเอวและให้เชือดตั้งแต่เอวให้เนื่องด้วยหนังเปนแร่งเป็นริ้วลงมาถึงเอนร้อยหวาย กระทำหนังเบื้อง
บนให้คลุมลงมาประดั่งนุ่งผ้า
สถาน 8 เอาห่วงเลกสวมข้อทั้งมวลให้มั่นและเอาหลักสอดในวงเลกแย่งขึงตรึงไว้กับธรนี อย่าให้ไหวตัวได้ แลนำเพลิงรนให้รอบตัวจนกว่าจะสิ้นใจตาย
สถาน 9 เอาเบดใหญ่ที่มีคมสองข้างเกี่ยวทั่วร่างเพิกหนังเนื้อแลเอ็นน้อยใหญ่ให้หลุดขาดออกมาจนกว่าจะสิ้นใจ
สถาน 10 เอามีดที่คมเชือดเนื้อให้ตกออกจากกายแต่ทีละตำลึงจนกว่าจะสิ้นมังสา
สถาน 11 แล่สับทั่วร่างแล้ว เอาแปรงหวีชุบน้ำแสบกรีดคอ รูดขูดเสาะหนังแลเนื้อแลเอนน้อยใหญ่ให้ลอกออกให้สิ้นให้อยู่แต่ร่างกระดูก
สถาน 12 นอนลงโดยข้างๆ หนึ่งแลให้เอาหลาวเลกตอกลงไปโดยช่องหูให้แน่นกับแผ่นดินแลจับขาทั้งสองข้างหมุนเวียนไปดังบุคคลทำบังเวียน
สถาน 13 ทำมิให้หนังพังหนังขาด แล้วเอาลูกสีลาบดทุกกระดูกให้แหลกย่อย แลรวบผมเข้าทั้งสิ้น ยกขึ้นหย่อนลงกระทำให้เนื้อเป็นกองเป็นลอม แลพับห่อเนื้อหนังกับทั้งกระดูกนั้นทอดวางไว้ดั่งตั่งอันทำด้วยฟางซึ่งเอาไว้เชดเท้า
สถาน 14 เคี่ยวน้ำมันให้เดือดพลุ่งพล่าน แลลาดสาดลงมาแต่ศีศะ จนกว่าจะตาย
สถาน 15 กักขังสุนัขร้ายทั้งหลายไว้ อดอาหารหลายวันให้เตมอยากแล้วปล่อยให้กัดทึ้งเนื้อหนังกินให้เหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า
สถาน 16 เอาขวานผ่าอกทั้งเปน แลแหกออกดั่งโครงเนื้อ
สถาน 17 เอาหอกแทงทีละน้อยๆจนกว่าจะสิ้นใจตาย
สถาน 18 ขุดหลุมฝังเพียงสะเอง แลให้เอาฟางปกลงคลุมร่างกายก่อนคลอกด้วยเพลิง พอหนังไหม้แล้วไถด้วยเลกไถ ให้แลดูเปนท่อนน้อยท่อนใหญ่ริ้วน้อยริ้วใหญ่
สถาน 19 เชือดเนื้อล่ำออกทอดด้วยน้ำมัน เหมือนทอดขนมให้กิน จำฉุดคร่าตีให้กินเนื้อกินหนังตัวเองจนกว่าจะสิ้นมังสา
สถาน 20 ตีด้วยตะบองน้อยใหญ่ ตะบองสั้นตะบองยาวจนกว่าจะตาย
สถาน 21 เฆี่ยนด้วยหวายมีหนามจนกว่าจะตาย
แลกฏทั้ง 21 ข้อนั้นมีไว้ใช้กับอ้ายอีตัวใดที่บังอาจคิดร้ายต่อพระวงค์หรือพ่ออยู่หัว แม่อยู่หัว อุปราช แลถึงพระสงภ์องค์เจ้าชั้นผู้ใหญ่ เจ้าขุนมูลนาย
หากเพียงแต่ว่าการฟันคอริบเรือนนั้นมิอาจจะทำให้พวกกบถใจหยาบช้าหยุดคิดการร้ายต่อแผ่นดิน แลจึงให้ใช้กฏพระอัยการกระบถศึกแทน
หากอ้ายอีตัวใดบังอาจคิดร้ายต่อแผ่นดิน พ่ออยู่หัวแลเชื้อพระวงค์แล้วไซร์ ให้ลงพระอาญาไอยการกระบถศึกที่กำหนดไว้ทั้งเจดชั่วโครต อย่าได้ละเว้นแม้แต่ครูบาอาจารย์แลเดกแดงหญิงสาวคนเฒ่าคนแก่ ฤๅถ้าเปนพระสงภ์องค์เจ้าแลให้สึกออกมาเสีย ให้ลงพระอาญาเสียให้สิ้น จักได้ไม่มีอ้ายอีตัวใดในแผ่นดินคิดการเช่นนี้อีก
แลการสำเรดโทษด้วยท่อนจันทร์อันเปนการประหารพระวงค์ที่คิดร้ายต่อแผ่นดิน ถ้าแลโทษหนักถึงสิ้นชีวิตไซร้ ให้ส่งแก่ทะลวงฟันหลังแลนายแวงหลังเอาไปมล้างในโคกพญา นายแวงนั่งทับตักขุนดาบ ขุนใหญ่ไปนั่งดู หมื่นทะลวงฟันกราบสามคาบ ตีด้วยท่อนจันทน์แล้วเอาลงขุม นายแวงทะลวงฟันผู้ใดเอาผ้าทรงแลแหวนทองโทษถึงตาย เมื่อตีนั้นเสื่อขลิบเบาะรอง
สวัสดีค่ะ
ตอบลบเหอะๆๆ เคยดูหนังเรื่อง พระสุริโยทัย
ตอนที่ต้องประหารกุมาร แล้วให้พระชัยราชา ขึ้นครองราช พระเทียนไม่เห็นด้วย
แค่นั้นยังสยองเลย
โชคดีนะคะ ภาพไม่เกิดสมัยนั้น(หรือเคยหว่า)
ความรู้รอบนี้สยองจัง
ภาพวาด
ปล.ขอบคุณที่ติและวิจารณ์กลอนให้ภาพนะคะ
ไว้จะ"พยายาม"ต่อนะคะ