ข้าพเจ้าเกิดในปีที่กรุงรัตนโกสินทร์ฉลองครบรอบสองร้อยปี ในยุคนั้นโลกก้าวผ่านยุคจรวดและกำลังก้าวเข้าสู่ “ยุคนิกส์” ซึ่งเป็นคำที่โก้หรูมากในสมัยนั้น ซึ่งข้าพเจ้าไม่น่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเร้นลับที่คนยุคนั้นพยายามเห็นว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ
หากแต่หลายต่อหลายเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าพบและได้รับฟังจากคนในครอบครัวมันมีอะไรที่น่าสนใจและชวนให้ขนลุกเสียด้วยซ้ำ
เรื่องแรกมันก็เริ่มกับตัวข้าพเจ้าเองเลยนั่นก็คือ เมื่อข้าพเจ้าเกิดมานับว่าเป็นเด็กที่อ่อนแอมาก แม่เล่าว่าข้าพเจ้ามีโอกาสรอดน้อยมาก และแล้วหัวใจของข้าพเจ้าก็หยุดเต้นเอาเสียดื้อๆ ไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่จะเป็นอย่างไร แต่โชคดีที่ย่าของข้าพเจ้ารู้จักกับแม่เฒ่าท่านหนึ่งซึ่งมีวิชาความรู้ทางไสยเวทให้ช่วยทำพิธีให้ ผลสุดท้ายข้าพเจ้าก็มีชีวิตอยู่มาเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านฟังนี่แหละครับ
บ้านของข้าพเจ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นป่าช้าเก่ามาก่อน มีบ้านอยู่หลังหนึ่งทำการปรับปรุงบ้านใหม่เมื่อไม่นานมานี้ปรากฏว่าขุดลงไปใต้พื้นดินบริเวณบ้านดันไปพบโลงหัวหมูโบราณเข้า ต้องเอาไปลอยน้ำทำพิธีกันสารพัดกว่าจะอุ่นใจอาศัยบ้านนั้นต่อ
เมื่อข้าพเจ้าอายุได้ ๗-๘ ขวบ คุณตาของข้าพเจ้าเสียชีวิต คืนหนึ่งเมื่อทุกคนในบ้านนอนหลับกันหมดแล้ว ปรากฏว่ามีเสียงคนมาเคาะประตูหน้าบ้าน พ่อกับแม่ออกไปดูเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างบ้านคล้ายกับหันหลังยืนปัสสาวะอยู่ เมื่อชายคนนั้นหันหน้ามาปรากฏว่าคือคุณตาของข้าพเจ้าเอง พ่อกับแม่เชิญท่านเข้ามาหน้าหิ้งพระแล้วพูดคุยกันหลายเรื่อง ท้ายที่สุดคุณตาได้มอบสายสิญจน์ให้คู่หนึ่งแล้วท่านก็เดินออกจากบ้านไป พ่อกับแม่ตามออกมาดูแต่ไม่พบร่างของใครบนถนนเลย เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อทั้งสองเอามือกวาดดูบนหิ้งพระ สายสิญจน์คู่นั้นยังคงอยู่?????????
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น