ถ้ำพุงช้าง เป็นถ้ำตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดประพาสประจิมเขต หลังศาลากลางจังหวัด ถนนเพชรเกษม เป็นถ้ำใหญ่ที่อยู่ใจกลางเขาช้างบริเวณที่เรียกว่า “พุงช้าง” เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างความยิ่งใหญ่ของหินงอกหินย้อยให้ ประทับใจตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็นการเที่ยวถ้ำพุงช้าง ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย นักท่องเที่ยวจะต้องเดินลุยน้ำ นั่งแพ และนั่งเรือแคนู เพื่อเข้าไปชมหินงอกหินย้อยที่เป็นฝีมือธรรมชาติ หินงอกหินย้อยมีลักษณะของช้างหลากรูปแบบที่แปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นหินงอกหินย้อยรูปช้างร้อย ๆ เชือกเดินตามกันเป็นวงรอบ หินงอกรูปช้างนั่งอยู่ใต้ฉัตรภายในถ้ำ บันไดสีทองเกิดจากหินงอกอันวิจิตรยิ่งเมื่อถูกแสงไฟจะเป็นประกายสวยงามมาก การเดินเที่ยวถ้ำพุงช้างใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งคนพังงาเชื่อกันว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์เช่นเดียวกับการลอดท้องช้างนั่นเอง แถมเป็นช้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
ตำนานถ้ำพุงช้างบอกว่า ตายมดึงได้ใช้หอกแทงที่พุงช้างจนเป็นรู คือ ถ้ำพุงช้างในปัจจุบัน ส่วนน้ำที่ไหลก็คือเลือดของช้างนั่นเอง อ้อ...ลืมบอกไปว่าที่หน้าวัดนั้นมีประติมากรรมรูปตายมดึงกับช้างในตำนานเมืองพังงาอยู่ด้วย
บริเวณปากถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาสมุนพระรามจำนวนมาก ระวังข้าวของในมือด้วยแล้วกันนะครับ และที่สำคัญคือ สมเด็จพระนางเจ้าฯรำไพพรรณีได้เสด็จฯมาทอดพระเนตร ณ ที่แห่งนี้ มีแผ่นหินจารึกพระปรมาภิไธยเป็นหลักฐานว่า “รำไพพรรณี ๒๖ มี.ค. ๑๕”
บริเวณข้างศาลถ้ำพุงช้างจะมีถ้ำเล็กๆมีทางเดินเข้าไปอยู่ แต่ไม่ขอเล่าแล้วกัน อยากให้ท่านลองเข้าไปเยี่ยมชมดูว่ามหัศจรรย์แค่ไหน
นางสาวพรรณี หัตถการ ได้เล่าว่า เมื่อสมัยที่บริเวณถ้ำพุงช้างยังไม่มีการดูแลเหมือนเช่นปัจจุบัน เป็นแต่เพียงป่ารกชัฏนั้น(ราวๆสามสิบกว่าปีที่แล้ว-๒๕๕๑) เธอและเพื่อนๆได้มาเล่นซ่อนหา ณ ถ้ำแห่งนี้แล้วเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ จนวันรุ่งขึ้นก็พบเพียงแต่เสื้อผ้าเปื้อนเลือด กับรอยเลือดที่ปากรูปปั้นหน้าปากถ้ำ เป็นสิ่งที่เธอยังคงจดจำได้ไม่ลืมเลือน ว่างๆก็ลองเข้าไปพิสูจน์และเยี่ยมชมความมหัศจรรย์นี้กันนะครับ
ไปมาแล้วครับข้างในมีจระเข้ตัวหนึ่งอ่ะน่ากลัวจริงๆ ถ้าใครเคยไปต้องได้เจอกันทุกคน
ตอบลบ