ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติม...ที่นี่

Custom Search

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สำมนักขาหายไปไหน



รามเกียรติ์เป็นเรื่องราวของพระนารายณ์อตารลงมาปราบยักษ์คือทศกัณฐ์ แต่พระรามคงไม่โมโหโกรธาจนถึงกับยกพลไปรบกับทศกัณฐ์ หากขาดชนวนคือ “การชิงนางสีดา” ตัวละครที่เป็นตัวสร้างปมปัญหาและเปิดฉากเรื่องรามเกียรติ์ให้ดำเนินไป คือ นางสำมนักขา บทบาทของนางโดเด่นในตอนต้นเรื่อง แต่ทว่าหลังทศกัณฐ์ล้มแล้วนางหายไปไหน หรือผู้แต่งลืม

หลังจากเกิดปริศนาข้อนี้จึงได้ตรวจทานอีกรอบ บทบาทของนางหายไปตั้งแต่ตอนบรรยายความงามของนางสีดาให้ทศกัณฐ์ฟัง พบเพียงการเอ่ยถึงตอนศึกกุมภกรรณและได้ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในตอนเสร็จศึกทศกัณฐ์ในช่วงที่พิเภกทูลเชิญนางสีดาเข้าเฝ้าพระราม จะขอยกบทพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ รัชกาลที่ ๑ มาให้ท่านพิจารณาประกอบ

“เมื่อนั้น
ฝ่ายนางมารสำมนักขา
แจ้งว่าญาติวงศ์ในลงกา
พากันไปเฝ้าพระจักรี

ให้คิดรำคาญร่านร้อน
จะซ่อนตัวอยู่เล่าก็ใช่ที่
อกใจไม่เป็นสมประดี
ดั่งมีผู้พิฆาตฟาดฟัน

ความกลัวเพราะตัวเป็นต้นเหตุ
ทุกข์เทวษโศกีไม่มีขวัญ
ด้วยโทษนั้นผิดติดพัน
เร่งประหวั่นพรั่นใจไปมา

จำเป็นจะพลอยไปด้วยเขา
บุญเล่าจะสมปรารถนา
เกลือกว่าพระลักษมณ์พระจักรา
จะมีความเมตตาปรานี

คิดแล้วฉวยได้สไบบาง
เดินพลางทางเสยเกศี
ลงจากปราสาทมณี
อสุรีก็รีบตามมา

ครันทันท้ายพลกระบวนแห่
เหลียวแลลนลานซ้ายขวา
ความกลัวองค์นางสีดา
ทำตาขวางขวางรีรี

ดูดั่งว่าคนเสียจิต
ไม่เข้าชิดฝูงนางสาวศรี
เดินอยู่ผู้เดียวโดยอัปรีย์
มิได้พาทีด้วยใครใคร”

เมื่อเปิดรามเกียรติ์ รัชกาลที่ ๒ ก็พบนางสำมนักขาในตอนเดียวกันนี้เช่นกัน คือ

“บัดนั้น
นางสำมนักขายักษี
รู้ว่าวงศาอสุรี
ไปเฝ้าพระจักรีที่พลับพลา

ให้นึกกลัวด้วยตัวเป็นต้นเหตุ
พระราเมศไม่อินังชังหนักหนา
ครั้นมิไปไม่พ้นพระอาญา
เธอจะทารกรรมทำประจาน

จำจะออกไปเฝ้าด้วยเขามั่ง
จะได้ฟังผ่านฟ้าว่าขาน
เผื่อจะหายกริ้วโกรธโปรดปราน
เป็นแต่เพียงพนักงานก็สมคิด

ดำริแล้วแต่งองค์ทรงเครื่อง
ย่างเยื้องยักไหล่ใส่จริต
เดินดูตัวเองเพ่งพิศ
รำพึงคิดถึงพระรามมาตามทาง

ครั้นทันท้ายพลกระบวนแห่
ค่อยเลียบเคียงเลี่ยงแลอยู่ห่างห่าง
ก้มก้มเงยเงยเสยผมพลาง
ให้กลัวนางสีดานารี

เข้าปนเหล่าสาวสรรค์กำนัลใน
จะพูดจากับใครเขาเมินหนี
ยิ่งขวยเขินเดินสะดุดปัถพี
อสุรีก้มหน้าคลาไคล”

ทั้งที่นางสำมนักขาเป็นตัวละครสำคัญผู้จุดชนวนศึกยักษ์กับมนุษย์จนกลายเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ แต่ก็ยังกลับทิ้งปริศนาข้อนี้ไว้ ใครพอจะทราบว่านางสำมนักขาหายไปไหน มีชะตาชีวิตอย่างไรบ้าง โปรดแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ จะขอบคุณอย่างยิ่ง

( ตัดความจากบทความ “สำมนักขาหายไปไหน” ของผมซึ่งได้ตีพิมพ์ในนิตยสารต่วยตูนเล่มเล็ก เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๖)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น