ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติม...ที่นี่

Custom Search

วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สงครามกระดานดำ ตอน คลิปฉาว



เช้าวันใหม่ของโรงเรียน “เฌอคู่วิทยา”อันแสนสดใส นกกระจิบนกกระจอกส่งเสียงเจื้อยแจ้วหยอกล้อกันที่ต้นโพคู่ แสงแดดลอดกิ่งก้านโพใหญ่ลงมา นักเรียนเล็กๆทั้งชายและหญิงเล่นเครื่องเล่นสนามอย่างสนุกสนาน อีกมุมหนึ่งครูแต้วก็กำลังดูแลความเรียบร้อยของนักเรียนที่ทำความสะอาดบริเวณหน้าเสาธง ครูเซฟเดินออกไปทางหน้าโรงเรียนเพื่อกินข้าวแกงร้านป้าพะยอม

“เซฟ เดี๋ยวหลังเลิกแถวแล้วไปที่ห้องพละเลยนะ” ครูสมจินต์ที่ปฏิบัติหน้าที่เวรพานักเรียนข้ามถนนกระซิบเบาๆ ครูเซฟเดินงงข้ามไปร้านข้าวแกงป้าพะยอม

บรรดาครูผู้ชายวันนี้ดูหลุกหลิกอย่างไรไม่ทราบได้ พอนักเรียนทยอยเดินแถวกลับเข้าไปยังห้องเรียน บรรดาครูผู้ชายก็ไปยืนออหน้าโน้ตบุ๊คของครูสมจินต์ในห้องพละเต็มไปหมด ครูเซฟเดินแหวกวงเข้ามาอย่างสงสัย

ภาพบนหน้าจอโน้ตบุ๊คเป็นภาพภายในห้องเรียนห้องหนึ่ง มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งกำลังจูบอย่างดุเดือดกับชายหนุ่มแล้วภาพก็ถูกตัดมาที่ใบหน้าของนักเรียนหญิง

“เฮ้ย! ยายเปิ้ลนี่นา” ครูเซฟอุทานลั่น

“ดูต่อเว้ย ยังมีทีเด็ด” ครูสมจินต์บีบมือของครูเซฟไว้

ภาพถูกตัดมาที่มือสากๆของชายหนุ่มที่ล้วงเข้าไปภายใต้เสื้อชั้นในของนักเรียนหญิง แล้วปทุมถันขนาดกะทัดรัดก็เผยโฉมออก เม็ดบัวสีชมพูถูกปากสากๆของชายหนุ่มดูดอย่างเมามัน ได้ยินเสียงครางเบาๆแต่ก็บอกไม่ได้ว่ามาจากในหรือนอกจอ จากนั้นก็ค่อยๆซูมต่ำลงมาเรื่อยๆ บรรดาครูผู้ชายดูฉากรักอันแสนจะเร่าร้อนนั้นอย่างจดจ่อจนภาพถูกตัดไป จึงค่อยๆคลายวงออก

“แล้ว ผ.อ.รู้เรื่องนี้หรือยังล่ะ” ครูเซฟถามด้วยความกังวลเพราะว่าเด็กหญิงเปิ้ลในคลิปนั้นเป็นนักเรียนประจำชั้นของเขานั่นเอง

“ไม่นึกเลยนะว่าเด็ก ป.๕ จะลีลาแพรวพราวขนาดนี้ อิจฉาไอ้หนุ่มนั่นจริงๆ” ครูสมจินต์เอามือเช็ดน้ำลาย

“จะไม่หื่นไปหน่อยเหรอพี่ นั่นลูกศิษย์เรานะ เสียจรรยาบรรณครูหมด” ครูบุ๊งใช้เสียงปรามครูรุ่นพี่

“หนอยแน่ ไอ้บุ๊ง อย่ามาทำเป็นพ่อพระหน่อยเลยวะ จำตอนที่คุมกีฬานักเรียนไปพิจิตรได้หรือเปล่า ที่แกเรียกหนูๆในคาราโอเกะมากกตั้งสองคน แกทั้งล้วงทั้งควักไม่เกรงใจพี่บ้างเลย” ครูสมจินต์เตรียมตัวจะหาเรื่องมาเผาครูหนุ่มจอมเจ้าชู้ซึ่งพยายามเอามือปิดปากไม่ให้พูดต่อ

“แล้วสุดท้ายยายสองสาวนั่นก็พูดว่า ครูจำหนูไม่ได้จริงๆหรือคะ เท่านั้นแหละ หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลย” บรรดาครูที่อยู่ในห้องพละหัวเราะดังลั่นก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นมา

“มีประชุมอะไรกันเหรอหัวหน้าสาระสุขศึกษา” เมื่อมองไปทางต้นเสียงก็เห็น ผ.อ.จิ๋มยืนอยู่ที่ประตู ครูสมจินต์รีบใช้ความไวปิดโน้ตบุ๊คทันที ครูคนอื่นๆไหว้ผู้อำนวยการก่อนจะทยอยเดินออกจากห้องพละไป

ครูเซฟเข้าไปโฮมรูมนักเรียนในห้องแล้วมองไปที่เปิ้ลหรือ “ด.ญ.กัลยาณี”ที่นั่งอยู่แถวหลังสุด ปีนี้เธอน่าจะอายุ ๑๑ ปีแล้ว เขาก็เพิ่งสังเกตว่ารูปร่างของเธอดูจะแตกเนื้อสาวก่อนใครอื่นในห้อง เวลามองผู้ชายก็จะมีแววตาที่มีจริตจะก้าน มองหน้าอกหน้าใจ สะโพกก็ใช่ย่อย

“บ้า คิดอะไรอยู่วะเรา” มโนธรรมของครูเซฟส่งเสียงปรามขึ้น

โลกในยุคดิจิตอลแค่ปลายนิ้วคลิก มันระบาดรวดเร็วยิ่งว่าโรคห่าลงกินเมืองเสียอีก ไม่ช้าไม่นาน
คลิปฉาวนั้นก็ถูกเผยแพร่ไปเรื่อยๆผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เรียกกันว่าใครไม่เคยดูก็เชยระเบิด เช่นเดียวกับที่ห้องพักครูสายชั้น ป.๖ ที่ครูพชรยื่นโทรศัพท์มือถือให้ครูแต้วที่กำลังง่วนตรวจการบ้านอยู่ดู

“ว้าย! บ้าจริง พชร ทุเรศ ลามกอะไรอย่างนี้ เอาออกไปเลยนะ” ครูแต้วปัดมือของครูสอนภาษาไทยออกไปอย่างรวดเร็ว

“บ้าจริง ครูแต้วนี่ มือถือผมเกือบตกเลยนะนี่ อุตส่าห์เอาของดีให้ดู เผื่อจะมีอารมณ์จะได้คิดมีกิ๊กซะบ้าง” ครูพชรนั่งลงที่เก้าอี้พลาสติกหน้าโต๊ะของครูแต้ว

“ไม่ต้องเอามาให้ฉันดูหรอกย่ะ ของลามกจกเปรตแบบนี้” ครูแต้วเดินตุปัดตุเป๋ออกไปจากห้องพักครู

“ไม่รู้ป่านนี้ครูเซฟจะจัดการกับแม่เปิ้ลนั่นยังไงนะ” ครูริสาที่นั่งอยู่ข้างๆจึงแสดงความคิดเห็นขึ้น

“ก็ส่งฝ่ายปกครองให้ผู้ช่วยฯเกษมจัดการสิ” ครูพชรหัวเราะลั่นก่อนจะส่ายหัวอย่างเยาะเย้ย

“ป่านนี้มุดหนีเจ้าหนี้ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ จะไปหวังพึ่งพาอะไรได้ล่ะ ไปห้องปกครองก็เจอแต่เก้าอี้เปล่าก็เท่านั้น”

ผ.อ.จิ๋มเมื่อทราบเรื่องก็ได้มอบหมายให้ครูกิ่งแก้ว ครูแนะแนวประจำโรงเรียนได้นำเด็กหญิงกัลยาณีมาสัมภาษณ์ และแล้วความจริงก็ปรากฏ

เด็กหญิงกัลยาณีเล่าว่า เธออาศัยกับพ่อซึ่งขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่หน้าโรงเรียนแต่เพียงลำพัง ส่วนแม่นั้นไปมีครอบครัวใหม่แล้ว ตอนเธออยู่ ป.๔ พ่อของเธอเมามากแล้วได้ล่วงเกินทางเพศเธอเป็นประจำ ต่อมามีวัยรุ่นชายข้างบ้านคนหนึ่งชวนเธอไปดูหนังที่บ้านของเขา แล้วเปิดหนังโป๊ให้เธอดู เธอรู้สึกว่าร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วชายหนุ่มก็ค่อยๆใช้วาจาหว่านล้อมจนเธอยอมตกเป็นของเขา เพราะสิ่งที่เขากระทำกับเธอนั้นมันนุ่มนวลและอ่อนโยนไม่หื่นกระหายและหยาบอย่างที่พ่อทำ เธอจึงรู้สึกรักเขามาก แล้วเธอกับเขาก็ลักลอบได้เสียกันมาเรื่อยๆเช่นกัน ส่วนพ่อนั้นระยะหลังๆก็ยิ่งระบายอารมณ์กับเธอถี่ขึ้น เธอคิดอยากจะหนีแต่ก็มองไม่เห็นว่าใครจะเป็นที่พึ่งได้

เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าคลิปนี้จะหลุดออกมา เพราะว่าวันที่เกิดเหตุการณ์นี้เธอกำลังทำเวรตอนเย็นแล้วทุกคนก็ทยอยกันกลับบ้านหมด ส่วนตัวเธอนั้นนั่งทำการบ้านอยู่เพราะไม่อยากกลับไปพบพ่อที่บ้าน แล้วแฟนหนุ่มของเธอก็พรวดพราดเข้ามาในห้องเรียนแล้วโอ้โลมเธออย่างหื่นกระหาย เธอกลัวว่าจะมีคนเห็นแต่ก็พ่ายแพ้ต่อลีลาเล้าโลมของเขา ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะถ่ายฉากรักเก็บไว้ เพราะแฟนเธออ้อนวอนว่าอยากจะเก็บไว้ดูเวลาคิดถึง ด้วยความไร้เดียงสาเธอจึงยอมเพราะหลงเชื่อคำของเขา

ครูกิ่งแก้วถอนใจอย่างเวทนา ส่วนเปิ้ลนั้นร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก เธอรู้สึกอับอายมากที่ถูกเพื่อนชายหลอกเจาะไข่แดงฟรีๆแถมยังเอาคลิปเธอออกมาประจานอย่างนี้

“แล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะ พี่กิ่ง” ครูเซฟถามอย่างกังวล

“ก็คงต้องดำเนินคดีกับพ่อเธอตามกฎหมาย ส่วนผู้ชายนั้นก็ต้องข้อหาด้วยเช่นกัน” ครูกิ่งแก้วตอบอย่างเหนื่อยใจกับคำสารภาพของนักเรียนหญิงชั้น ป.๕

“แล้วตัวเปิ้ลล่ะครับ”

ครูกิ่งแก้วส่งสายตาเชิงเวทนามาที่ครูเซฟ “พี่ว่าก็คงต้องส่งไปสถานสงเคราะห์หญิงล่ะ เพราะแม่ของเปิ้ลเองก็หย่าร้างไปนานแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้”

ผ.อ.จิ๋มเป็นธุระติดต่อเรื่องของการส่งเปิ้ลไปอยู่สถานสงเคราะห์ แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะผลการตรวจร่างกายนั้นปรากฏว่า เปิ้ลตั้งครรภ์อ่อนๆได้สองเดือนแล้ว และที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ ผลการตรวจดีเอ็นเอปรากฏว่าเด็กในท้องเป็นลูกที่เกิดจากพ่อของเปิ้ลเอง ส่วนด้านแฟนของเปิ้ลนั้นก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์และกระทำการอนาจารต้องเข้าสถานพินิจหลายปีเช่นกัน สงสารก็แต่คลิปฉาวนั้นก็ยังคงส่งต่อจากมือต่อมือไปเรื่อยๆในโลกดิจิตอล

“ฉันเคยพูดหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่าให้เยี่ยมบ้านนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มเสี่ยง” เสียงแหลมเล็กของผู้อำนวยการโรงเรียนระบายออกมาในห้องประชุมโรงเรียนโดยมีครูนั่งกันอยู่เต็ม

“ต้องขอขอบคุณครูกิ่งแก้วที่ช่วยจัดการเรื่องนี้จนลุล่วงไปได้ด้วยดี ผ.อ.ได้ทำรายงานต่อผ.อ.เขตพื้นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน แล้วขอให้ครูประจำชั้นทุกคนจำไว้เลยนะว่า ให้ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด แต่สำหรับนักเรียนสาวๆกับครูบุ๊งนี่ คงไม่ต้องใกล้ชิดกันมากนะคะ เดี๋ยวจะเหมือนนักเรียนห้องครูเซฟอีก” ผ.อ.จิ๋มกล่าวเป็นเชิงเสียดสีครูเซฟตามนิสัยของตัวเองที่ชอบประจานคนอื่นในที่ประชุม

“วิชา”

“มาครับ”

“สุรพงศ์”

“มาครับ”

“กนกวรรณ”

“มาค่ะ”

“กัลยาณี”

ครูเซฟชะงักทันที สายตาเหลือบไปมองที่นั่งประจำของเด็กหญิงกัลยาณีซึ่งมีแต่ความว่างเปล่า ป่านนี้เด็กสาวคงจะท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้วในสถานสงเคราะห์หญิง ถ้าเธอยังเรียนอยู่ที่นี่ก็คงจะได้สอบปลายภาคเรียนเพื่อเลื่อนชั้นไปอยู่ ป.๖ แล้ว

“กลีบผกาเจ้าเอ๋ยเคยอยู่ต้น

ต้องผจญภุมรินบินตอมไต่

ลมพัดร่วงลงดินแทบสิ้นใจ

ถูกหนอนไชชอนขยี้พลีพรหมจรรย์”

ปากกาในมือครูพชรหยุดชะงัก เมื่อลมแรงพัดแจกันดอกไม้บนโต๊ะหล่นลงแตก

( ชื่อตัวละครและเรื่องราวนี้เป็นแต่เรื่องสมมติขึ้นมาทั้งสิ้น ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงถึงผู้ใด หากได้ล่วงเกินแก่ใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ )

( โปรดติดตามตอนต่อไป )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น