โดย นพ . พนมทวน ชูแสงทอง
เพศที่สาม ...ดูเหมือนจะได้รับความสนใจและการตัดสินจากสังคมมากมาย ไม่ว่าจะในด้านบวกหรือด้านลบ ทั้งในฐานะของผู้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ ตัวตลกหรือตัวเสริมรสในละครโทรทัศน์ ข่าวโหดตามสื่อ หรือแม้แต่การได้รับความสนใจจากภาครัฐ คำถามที่ตามมาคือ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น โดยความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าคนที่เป็นเพศที่สามอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายนักในสังคม เพียงแต่การปรากฏตัวต่อสาธารณชนนั้นมากขึ้น และสีสันที่ปรากฏก็ดูรุนแรงขึ้น ทำให้เสมือนว่าทวีจำนวนมากขึ้น ผู้เป็นเพศที่สามและเดินมาพบผมนั้นมีจำนวนมาก แต่มีบทสรุปจากการปรับตัวที่แตกต่างกัน มีทั้ง ผู้ที่ยอมรับในตนเองได้ (Ego syntonic) มีความสุขกับชีวิตและบทบาทที่เหมาะสม ได้รับการยอมรับ ยกย่องให้เกียรติจากผู้อื่น มีทั้ง ผู้ที่ยอมรับตนเองไม่ไ ด้ (Ego dystonic) เสื่อมความศรัทธา กระทั่งสูญสลายความรักที่มีต่อตนเอง ในที่สุดลงเองด้วยการป่วยเป็นโรคทางจิตเวชต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ก้าวร้าว ทำร้ายตนเอง หากเป็นคุณ ไม่ว่าจะในฐานะของผู้ที่เป็นเพศที่สามหรือผู้ใกล้ชิด คุณอยากให้บทสรุปจบลงตรงไหน ..? ผมมีข้อเสนอครับ .. ทำตัวยังไงให้สมเป็น ..." กุลเกย์ ( กะเทย )" ประเด็นนี้ที่น่าจะต้องให้ความสนใจกันหน่อยว่า คุณต้องการให้สังคมยอมรับคุณ ในบทบาทใด บุคคลที่มีคุณค่า มีศักดิ์ศรีในตนเอง ตัวตลก สายพันธุ์ที่มีหน่อบนจมูก ( อาทิ แรด กระซู่ ) เกย์โหด กะเทยเหี้ยม ทอมจอมซาดิสม์ ตัดสินใจนะครับ ผมมีข้อเสนอดังนี้
1. กรุณากำหนดแนวทาง จุดยืน บทบาทของตนเองที่ชัดเจน เช่น คุณ ต้องการเป็นเกย์ โหด กะเทยดัดจริต ตัวตลกในละคร หรือว่าเป็นแนวอนุรักษ์นิยม แนวสร้างสรรค์สังคม แต่ผมว่าเป็นตัวของตัวเองโดยมีภาพลักษณ์ที่ดีที่เหมาะสมกับกาลเทศะจะดีที่สุด เพราะนั่นเป็นการบ่งถึงความเคารพตนเอง เชื่อมั่นศรัทธาในตนเองในสิ่งที่ถูกต้อง ในสถานภาพที่เป็น ( คนเรามีคุณค่าในตนเองได้เสมอครับ ทั้งจากความดี ความสามารถ ความรู้จักที่จะรักตนเอง
2. จริงใจ ไม่สำส่อน ไม่มั่ว ไม่พยายามกลายพันธุ์เป็นสัตว์ตระกูลหน่อ ( พยายามคง สภาพของสายพันธุ์เดิมไว้ ) กลุ่มหนึ่งของเพศที่สามนั้นโหยหาและปรารถนาในความรัก แต่แน่ใจหรือครับว่าการที่พยายามไปวิ่งเสาะแสวงหาหรือทำตัวส่ำส่อนนั้นจะได้มาซึ่งสิ่งที่คุณปรารถนา
3. รู้จักป้องกันตนเองจากปวงโรคภัยทั้งหลาย และคำครหาของผู้คน ประการนี้จำเป็น ครับ กรุณาใช้ถุงยางอนามัย ( ซึ่งมีขายกระจายเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ) เพื่อสุขภาพและชีวิตของคุณเอง อีกทั้งควรป้องกันตนเองจากการนินทาว่าร้าย ( โดยเฉพาะการด่าซึ่งๆ หน้า เพราะถ้าลับหลังเราก็ไม่ได้ยินแล้ว ) มียันต์เกราะคุ้มกันตัวได้แก่ การประพฤติดี พูดดี คิดดี ครับ ( ไม่จำเป็นต้องรักษาเอกลักษณ์ว่า เกย์กะเทยต้องปากจัด ทอมต้องดุดันเข้าไว้ )
4. รัก ผูกพัน และห่วงใยครอบครัวเสมอ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาในแนวสันโดษ รันทด หดหู่ หรือเศร้าสร้อยครับ ปกติแล้วครอบครัวนั้นพร้อมที่จะรักและยอมรับในตัวคุณเสมอ เพียงแต่คุณต้องไม่วิ่งหนี ต้องเข้าใจครอบครัวด้วยเช่นกัน โดยการเคารพและรักษาเกียรติหรือภาพพจน์ให้ครอบครัวด้วย รวมทั้งการสร้างความมั่นใจในความเป็นคนดี มีความสามารถให้แก่ครอบครัวของคุณ
5. ไม่หลอกลวง ไม่มอมเมา ไม่ฉวยโอกาส ไม่สร้างความรำคาญ รวมทั้งไม่ลวนลาม ไม่ปล้ำ ไม่หื่น กับบุคลที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ บุคคลที่เขาเป็นเพศปกติ เยาวชน ( อันนี้ขอเน้น ไม่ต้องมาอ้างเลยว่า เด็กยั่ว เด็กเป็น หรือเด็กมีแนวโน้ม ) กรุณาควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพื่ออนาคตของบุคคลอื่น ถ้าเด็กจะเป็นให้เขาเติบโตและเป็นด้วยตัวตนของเขาเอง ไม่ใช่เกิดจากการยั่วยุ ลวนลาม หรือหลอกล่อของคุณ ( ไม่งั้น ... แช่งด้วยเอ้า ... ให้เป็นเกย์เป็นกะเทยที่ไม่สวย ไม่สง่า ทั้งแห้วทั้งนกไปอีกหลายชาติด้วยนะ )
6. รักษามารยาทที่ถูกต้อง และยอมรับในความคิดเห็น ตลอดจนการดำเนินชีวิตของ ผู้อื่น เพราะในชีวิตของคุณนั้นจะต้องพานพบผู้คนเพศปกติมากมาย คุณก็ต้องรู้จักรักษามารยาทและความสัมพันธ์ที่ดีด้วย ( ไม่ใช่พอเห็นเป็นสเป็คปุ๊บ ! กะเคลมอย่างเดียว คุณจะกลายเป็นเกย์กะเทยชนิดไข้หวัดนกทันที คือไม่มีคนอยากเข้าใกล้ )
7. รับฟังคำตักเตือนที่มีเหตุผล โดยนำมาปรับปรุงแก้ไขด้วยใจที่เปิดกว้าง แน่นอนครับ เมื่อเราอยู่ในสังคมก็จะมีคนเป็นห่วงเป็นใย ถ้าคุณเจอคนที่เตือนด้วยความหวังดี ( สังคมปัจจุบันบางพื้นที่หายากแล้วนะคนประเภทนี้ ) ก็รับฟัง ทบทวน และพิจารณาปรับปรุงแก้ไข อย่ารีบโกรธและปิดใจตนเองเสียก่อน คุณอาจพลาดโอกาสที่ดีก็ได้
8. นำศักยภาพที่มีแสดงออกอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นที่คุณจะปกปิดความสามารถหรือศักยภาพที่มีในตัวคุณเลย แต่กรุณาใช้ " วิจารณญาณ " ไตร่ตรอง และ " สติ " กำกับเสมอ แยกให้ออกนะครับ ระหว่างความสามารถและศักยภาพ กับความเป็นเพศที่สาม มันคนละส่วนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น